ลำพูนดวลดุร้อยเอ็ดเหลืองแดงว่อนเจ๊า0-0

การแข่งขันฟุตบอลเอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่ 8 ประจำอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. การแข่งขันในกลุ่ม บี ที่สนามกีฬากลางจังหวัดลำพูน ราชันโคขาว ลำพูนวอริเออร์ เปิดบ้านต้อนรับยอดทีมจากแดนอีสาน กระรอกขาวจ้าวสนาม ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายและกองเชียร์ชาวเมืองหละปูนขนกันมาเต็มสนาม
  
โดยสถานการณ์ของเจ้าบ้านก่อนเกมอยู่ในอันดับ 6 มีอยู่ 3 คะแนน ตามหลังทีมจ่าฝูงถึง 14 แต้ม โอกาสขึ้นดิวิชั่น 1 ปีนี้จบลงแล้ว โดยล่าสุดบุกไปพ่ายนครราชสีมา เอฟซี มา 0-1 เกมนี้เป็นการเล่นในบ้านนัดสุดท้ายจึงเป็นเล่นเพื่อสปิริต มีผู้สนับสนุนและผู้บริหารทีมมาอย่างพร้อมหน้านำโดยนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ในฐานะประธานสโมสรลำพูนวอริเออร์ นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.ลำพูน และ พ.ต.อ.ธนะรัชน์ ชุ่มสวัสดิ์ ผู้จัดการทีม
 
นายอนุสรณ์ กล่าวก่อนเกมนัดสุดท้ายในบ้านว่า ที่ผ่านมาสโมสรทุ่มเทการทำทีมมาตลอดจนล่าเป็นหนี้อยู่ 5 ล้านบาท แต่ทีมผู้บริหารจะไม่ยอมแพ้จะทำทีมต่อไป ส่วนรายได้ทั้งสปอนเซอร์ตอนนี้ยังไม่ได้ตามเป้า การแข่งขันในปีแรกถือว่าได้ประสบการมากมายทั้งทีม การบริหารและกองเชียร์ ทั้งหมดจะทำให้เราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ขอสัญญาว่าปีหน้าจะขอเป็นแชมป์ภาคเหนือและพาทีมขึ้นดิวิชั่น 1 ให้ได้
  
สภาพทีมเจ้าบ้าน ลำพูนวอริเออร์เกมนี้ถือว่าพร้อม ขาดหายไปเพียง อัจฌาวุฒิ เขื่อนธนะ ที่ติดโทษแบนเพียงรายเดียว ส่วนขุนพลรายอื่นอยู่ครบไม่ว่าจะเป็น บัณฑิต เพชรอำไพ กับตันทีม สุดนที ณ เชียงใหม่ รวมถึง อนุชา ไชยวงศ์ ดาวยิงร่างใหญ่ น้าหลอง ฉลองชัย ลีฬหาชีวะ กุนซือใหญ่กล่าวว่า แม้ว่าตอนนี้ลำพูนไม่มีลุ้น แต่การเล่นในบ้าน รวมถึงสปิริตเราจะเล่นอย่างเต็มที่
 
ทางด้าน ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ของโค้ช จักรราช โทนหงษา ถือว่าไม่สมบูรณ์เพราะผู้เล่นตัวหลักโดนแบนถึง 3 ราย คือ สุนทร ปั้นรัตน์, วิษณุศักดิ์ อุ่นน้อย และดาวเตะผิวสี เอบเดล อบิซซู ก่อนเกมทีมกระรอกขาวจ้าวสนาม มีอยู่ 9 คะแนน เป็นอันดับ 4 ของตาราง ตามกระบี่ จ่าฝูงอยู่ถึง 8 คะแนน แต่หากเก็บ 3 แต้มในนัดนี้ได้ยังมีลุ้น นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงษ์ ผู้จัดการทีมยืนยันสู้อย่างเต็มที่เพื่อเป้าหมายเดิมคือการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 1
     
เริ่มการแข่งขัน ลำพูนวอริเออร์ เจ้าบ้านที่ได้เขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อนเปิดเกมบุกใส่ทีมเยือนทันที แต่ทีมเยือนอีสานตั้งรับเหนียวแน่น เกมส่วนใหญ่ยังสู้กันแดนกลาง ผ่านไป 10 นาที ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ทำเกมเหนือกว่าและมีโอกาสทำประตูและเตะมุมหลายครั้งแค่แนวรับและ ชาญชนะ หนูเปลี่ยน นายทวารยังไม่พลาด
    
ทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสที่จะพังประตูกันชัดเจนได้แต่เฉี่ยวไปมา นาทีที่ 18 กรรมการ บินหลา ปรีดา ก็ควักใบเหลืองแรกแจกให้ ณรงค์ฤทธิ์ มุละสิวะ หลังพุ่งเข้าสกัด สุดนที ณ เชียงใหม่ ของเจ้าบ้านจนล้มกลิ้ง นาทีที่ 22 ทีมเยือน น่าจะได้ประตูขึ้นนำในจังหวะที่ ถนอม แสงจันดา ปีกเมืองเกินร้อยหลุดมาทางด้านขวา เปิดให้ มูฮามาดู กองหน้าผิวสีร่างโย่งของร้อยเอ็ดขึ้นโขกโล่งๆ แต่ มูฮามาดู กดไม่เข้ากรอบ
  
เกมเจ้าถิ่นเริ่มเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด นาทีที่ 28 ร้อยเอ็ด ได้เตะฟรีคิกหน้าเขตโทษ  ธีระพงษ์ ดีหามแห ปั่นไปในเขตโทษ แนวรับเจ้าบ้านเคลียร์ออกมาได้หวุดหวิดก่อนบอลไปเข้าหัว มูฮามาดู ที่รอขึ้นโขกอยู่เสาสอง

ขุนพลกระรอกขาว ที่ยังลุ้น 3 แต้มเดินหน้าบดต่อเนื่อง ลำพูน เจ้าบ้านต้องอาศัยการโยนยาวให้ สุดนที ณ เชียงใหม่ ดาวเตะร่างเล็กอาศัยความเร็วลุ้นทำประตู
  
นาทีที่ 32 กรรมการ บินหลา ปรีดา ก็ควักใบเหลืองใบที่สองแจกให้กับ ระพงศ์ ดีหามแห นักเตะร้อยเอ็ด ที่พุ่งเสียบ ธีรวุฒิ วงค์ตัน จนตัวลอย ท้ายเกมสองทีมเข้าบอลหนัก กรรมการต้องเป่าหยุดเกมบ่อยครั้ง นาทีที่ 42 ทีมเยือนได้เสียวอีกหนในจังหวะที่ได้ฟาว์ลหน้ากรอบเขตโทษ ธีระพงศ์ ดีหามแห ปั่นไปเสาสอง ชาญชนะ หนูเปลี่ยน ประตูลำพูนชกออกมาเข้าทางปืนของ ณรงค์ฤทธิ์ มุละสิวะ ซัดสวนเข้าไปแต่แผงหลังลำพูนบล็อกบอลกระดอนออกมาก่อนบอลพุ่งเข้าประตู
 
ช่วงทดเวลาเจ็บ 2 นาที ครึ่งแรกเจ้าบ้านได้ลุ้นจากเตะมุม บอลหลุดมาถึง สุดนที ณ เชียงใหม่ ลากบอลไปยิงแต่แนวรับร้อยเอ็ดช่วยกันเคลียร์ออกมาได้ หมดเวลาครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง เกมของทีมเยือนยังดูดีกว่า แต่แนวรับเจ้าบ้านช่วยกันต้านทานเอาไว้ได้ ลำพูน ต้องอาศัยโยนยาวทำเกมสวน และหวิดได้เฮในจังหวะที่ บัณฑิต เพชรอำไพ จอมทัพกัปตันทีมจ่ายบอลยาวให้ อนุชา ไชยวงศ์ กองหน้าร่างยักษ์หลุดเข้าไปยิงแต่ ศุภชาติ อภิชาตยานนท์ ประตูร้อยเอ็ดพุ่งออกมาบล็อกได้รับบาดเจ็บ แพทย์สนามลงไปปฐมพยาบาลพักใหญ่จึงเล่นต่อได้
 
เกมโยนยาวของ ลำพูน เริ่มเห็นผล นาทีที่ 60 ลำพูน หวิดพังประตูอีกหนเมื่อ ลิขสิทธิ์ โตสุวรรณ ตักบอลยาวออกขวาให้ บัณฑิต เพชรอำไพ หลุดไปซัดเต็มข้อบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 62 ร้อยเอ็ด เปลี่ยนตัวเป็นคนแรก โดยโค้ชบู๋ จักรราข โทนหงษา ส่ง ศิริศักดิ์ เย็นใจ ลงไปเล่นแทน เดวิด เดวิดสัน

ทั้งสองทีมต้องการชัยชนะเกมดุเดือดขึ้นตามลำดับ นาทีที่ 65 กรรมการ บินหลา ปรีดา ก็แจกใบเหลืองให้ฝั่งเจ้าบ้านบ้าง ในจังหวะที่ สุรศักดิ์ วงศ์ไชย ไปเตะ ศิริศักดิ์ เย็นใจ ก่อนที่เจ้าบ้านจะโดนเหลืองอีกรายเป็น จรัล หมื่นทา ที่เข้าบอลหนัก นาทีที่ 70 สองทีมพร้อมใจกันเปลี่ยนตัว โดยลำพูน ส่ง สมเจตต์ จันทาพูล ลงเล่นแทน กองหน้า อนุชา ไชยวงศ์ ที่วิ่งไล่บอลจนหมดแรง ส่วน ร้อยเอ็ด ส่ง ปริญญา พันธมา มาเติมสดในด้านขวาแล้วให้ ถนอม แสงจันดา ออกมาพัก

เกมเดือดขึ้นตามลำดับ นาทีที่ 75 ลำพูน เจ้าบ้านต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ จรัล หมื่นทา โดนใบเหลืองเป็นครั้งที่สอง สองนาทีถัดมาร้อยเอ็ด ยังไม่ทันได้ฉวยโอกาสความได้เปรียบเรื่องผู้เล่น ก็เหลือ 10 คนบ้าง เมื่อกรรมการ บินหลา ปรีดา แจกใบเหลืองที่สองให้กับ อูดูค้า เป็นใบแดงต้องออกจากสนามไป

นาทีที่ 85 ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้าย ปิยะพงษ์ บุตรเจริญ ลงไปเติมความสดในแดนกลางและให้ ณัฐวุฒิ หาญชัย ออกมาพัก นาทีที่ 87 ลำพูน เปลี่ยนตัวบ้างเอา พัฒ ทองเพ็ญกุล ลงไปแทน บัณฑิต เพชรอำไพ กัปตันทีม เกมยังแรงมาถึงนาทีที่ 88 กรรมการก็แจกเหลืองให้ วิษณุรักษ์ ศักดิ์คำดวง ช่วงทดเวลาเจ็บ 3 นาที สองทีมยังบดกันอย่างหนักแต่ไม่สามารถพังประตูเพิ่มได้หมดเวลาเสมอกันไปดุเดือด 0-0 ทำให้ลำพูน เจ้าบ้านมีเพิ่มเป็น 4 แต้ม อยู่ก้นตารางเช่นเดิม ส่วน ร้อยเอ็ด มีเพิ่มเป็น 10 แต้ม ทำให้สถานการณ์ในการลุ้นขึ้นดิวิชั่น 1 เริ่มริบหรี่ แม้ว่าจะมีเกมเหลืออีก 2 นัด เพราะยังตามหลังกระบี่ทีมนำถึง 7 แต้ม แถมยังมีคู่แข่งสำคัญทั้ง นครราชสีมา และ รอยอง ที่ทำแต้มเบียดกันอยู่

หลังเกมการแข่งขัน โค้ชบู๋ จักรราช โทนหงษา กล่าวยอมรับว่า เกมวันนี้ค่อนข้างหนัก นักเตะสู้กันเต็มที่แล้ว และก็พอใจผลการแข่งขัน ส่วนจะลุ้นขึ้นดิวิชั่น 1 ได้หรือไม่นั้นก็ต้องรอลุ้นผลการแข่งขันคู่อื่น หากไม่ได้ขึ้นก็ถือว่าเราได้พยายามทำดีที่สุดแล้ว

ด้านน้าหลอง ฉลองชัย ลีฬหาชีวะ เปิดเผยว่า ถือว่าหนักและสนุกในเกม วันนี้ลำพูนก็ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ในส่วนเกมที่เหลือแม้ว่าเราไม่ได้เข้ารอบแต่ก็จะสู้ต่อไป เพื่อตอบแทนแฟนบอลและสโมสรที่ทำงานหนักมาตลอด สำหรับยอดผู้ชมของทีมเจ้าบ้าน ลำพูนวอริเออร์ วันนี้เก็บค่าตั๋วได้ 109,000 บาท ส่วนของที่ระลึก 18,000 บาท

เครดิต: ไทยลีกออนไลน์ดอทคอม