กระบี่หลังพิงฝาหวังสยบระยองขึ้นด.1

"อินทรีอันดามัน" กระบี่ เอฟซี จะไม่มี 2 แข้งหลักอย่าง เอกราช ปั้นแก้ว กับ สุวัจน์ วะเจดีย์ ส่วนรายอื่นยังอยู่ครบพร้อมให้ลูกทีมเปิดเกมรุกแบบเต็มสูบต้องการคว้าชัยเพื่อตีตั๋วเลื่อนชั้นไปเล่น ด.1 ให้ได้ ขณะที่ทางด้านระยอง เอฟซี ฟูลทีม รอตั้งรับแล้วสวนกลับ ส่วนทีม นครราชสีมา เอฟซี ถึงแม้จะเลื่อนชั้นแล้ว แต่ทางด้าน เทเวศร์ กมลสินธุ์ กุนซือใหญ่ของทีมก็หวังที่จะพาเปิดรังคว่ำทีมร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ให้ได้เพื่อเป็นแชมป์ของกลุ่ม

 กระบี่ขาด 2 แข้งพร้อมรุกเต็มสูบ

ศึกเอไอเอสลีกดิวิชั่น 2 ในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีกสุดสัปดาห์นี้โคจรมาถึงนัดสุดท้ายสำหรับในกลุ่ม บี มีโปรแกรมลงฟาดแข้งทั้งหมด 3 คู่ 3 สนามสำหรับคู่ "บิ๊กแมตช์" ต้องยกให้คู่ที่สนามอบจ.กระบี่ โดยจะเริ่มแข่งขันเวลา 17.00 น. ทีมกระบี่ เอฟซี กับทีมระยอง เอฟซีถือเป็นนัดชิงดำหากใครเก็บสามแต้มในเกมนี้ได้จะเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่น ด.1 ในปีหน้าทันที

 ในเกมนี้ทางด้านทัพ "อินทรีอันดามัน" กระบี่ เอฟซี ทางด้าน  "โค้ชพงษ์" ธนเดช ภูประเสริฐ ผู้จัดการทีมจะขาด 2 ผู้เล่นหลักอย่าง เอกราช ปั้นแก้ว ที่ติดโทษแบบกับ สุวัจน์ วะเจดีย์ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ สำหรับรายอื่นๆ ยังอยู่กันครบเตรียมส่งตัวหลักอย่าง

อนุวัตร พรหมสกุล, วีระศักดิ์  จี้อุ่น,  คริสเตียน, เบอร์นาด  และ โจนาธาน ลงสนามในเกมนี้ถือเป็นเกมสำคัญในเกมนี้จะกระตุ้นลูกทีมให้สู้อย่างเต็มที่พร้อมให้ลูกทีมเปิดเกมรุกเข้าใส่ทันทีและเล่นตามแบบที่ตัวเองถนัดและห้ามให้ลูกทีมประมาทคู่แข่งเด็ดขาดในเกมนี้หวังที่จะอาศัยความได้เปรียบที่เสียงเชียร์และสภาพทีมที่สมบูรณ์กว่าบดเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อทำผลงานเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในดิวิชั่น 1 ในปีหน้าให้ได้
 

 ม้าลำพองฟูลทีมหวังบุกคว่ำกระบี่

ขณะที่ทางด้านทีมเยือนทัพ " ม้าลำพอง" ระยอง เอฟซีในเกมนี้คึกเต็มที่ทางด้าน "โค้ชต๋อย" ประภาร นาคพงษ์ ประธานเทคนิคของทีมไม่มีปัญหาในเรื่องของการจัดทัพในเกมนี้สมบูรณ์แทบทุกตำแหน่งในเกมนี้เตรียมลงแข้งหลักอย่าง ณัฐพร ไทยาพงศ์สกุล, เทอร์รี่ ทีโชบี้,  ทักษิน วิเศษสิงห์,  ไตรรงค์ แก่นจันทร์ สองพี่น้องอย่าง ศิริศักดิ์  มัสบูงอ และ สิทธิ์ชัย มัสบูงอ ลงบัญชาเกมในแดนกลาง

 โดยมีทางด้าน ณัฐวุฒิ คำรินทร์ ลงเดินเกมทางฝั่งซ้าย และใช้ ปองเทพ มุลาลี ลงกระชากรากเลื้อย ทางริมเส้นด้านขวา และใช้ วิทยา เล่าเลือง ลงสนามเป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้าในเกมนี้จะให้ลูกทีมเล่นแบบรัดกุมเน้นเกมตั้งรับแล้วรอจังหวะโต้กลับเร็วในเกมนี้ต้องการบุกไปคว่ำทีมกระบี่เอฟซีให้ได้เพื่อตีตั๋วไปเล่น ด.1 ให้ได้

 
 "อาชา" ขอสามแต้มในรังหนีบ๊วย

ต่อกันที่สนามเทพหัสดินเริ่มแข่งขันเวลา 16.00 น. เป็นการพบกันระหว่างทีม " อาชาผยอง" นอร์ทกรุงเทพเปิดบ้านพบกับทีม "ราชันโคขาว" ลำพูน วอริเออร์ ทั้งสองทีมหมดสิทธิ์ลุ้นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งคู่แล้วแต่เพื่อศักดิ์ศรีในเกมนี้ยอมกันไม่ได้เด็ดขาดต้องการสามแต้มเท่านั้นเพื่อขยับหนีอันดับบ๊วยของกลุ่ม

 ในเกมนี้เจ้าถิ่น นอร์ทกรุงเทพทางด้าน "โค้ชโป้ง" กฤษห์ สิงค์ปรีชา จะขาด 2 ตัวหลักอย่าง พิเชษฐ์ มตุมาจันทร์ ผู้เล่นในแดนหลังที่มีอาการบาดเจ็บและทางด้านของ ธีระศักดิ์ คุณรักษา ในเกมนี้เตรียมส่งดาวรุ่งอย่าง ยุทธนา เนาวรัตน์, นิรุธ จำเริญศรี, เกริกพงษ์  บุญสิทธิ์ 

ผสมกับแข้งหลักอย่าง เอกสิทธิ์  สุดสวาท, บวร  ตาปลา, สถาพร แดงศรี และใช้ ยุทธนา เรืองสุขสด เป็นทีเด็ดในแดนหน้าคู่กับ อภิวัฒน์ เพ็งประโคน ต้องการทำผลงานให้ดีที่สุดในนัดสุดท้ายเล่นในบ้านต้องการสามแต้มเท่านั้นเพื่อหนีบ๊วยของกลุ่ม
   

 "โคขาว" ขาด 5 แข้งใช้ระบบโรเตชั่น

ขณะที่ทางด้านทีมเยือน "ราชันโคขาว" ลำพูน วอริเออร์ในเกมนี้เตรียมขนแฟนบอลออกมาชมเกมกันอย่างหนาแน่นเช่นเดิมทางด้าน "น้าหลอง" ฉลองชัย ลีฬหาชีวะ กุนซือจอมเก่าของทีมมีปัญหาในเรื่องของจัดตัวผู้เล่นพอสมควรเมื่อต้องขาดแข้งหลักถึง 5 รายมี สุรศักดิ์ วงค์ไชย และ วิชิตนันต์ กรวยทอง ที่ติดโทษแบน อัฌาวุฒิ เชื่อนธนะ, ธีรวุฒิ วงศ์ตัน และทางด้าน อภิชัย กูออ ที่มีอาการบาดเจ็บ

 ในเกมนี้จะมีการหมุนเวียนตัวผู้เล่นเตรียมส่งนักเตะหลักอย่าง สุดนที ณ เชียงใหม่, ชาญชนะ หนูเปลี่ยน,  ทศพล เจ๊กรัก และ อนุชา ไชยวงศ์ และเปิดโอกาสให้นักเตะอย่าง ศราวุธ วงศ์ชัย, ธีรพงษ์ ปัญญาศักดิ์, สุทธิพงศ์ ทนานันท์ ลงสนามในเกมนี้เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ลูกทีมสู้เต็มที่เพื่อพาทีมขยับหนีโซนบ๊วยเช่นกัน
 
 
 โคราชสุดคึกส่งพร้อมพงษ์ทีเด็ด
 
ส่วนคู่สุดท้ายเริ่มแข่งขันเวลา 18.00 น. เป็นศึกดาร์บี้แมตช์จากแดนอีสานทีม "สวาดแคท" นครราชสีมา เอฟซีทีมว่าที่น้องใหม่ ด.1 ปีหน้าจะเปิดรังเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษารับการมาเยือนของทีมคู่รักคู่แค้นอย่างทีม "กระรอกขาวจ้าวสนาม" ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ดที่หมดลุ้นไปแล้วในเกมนี้เจ้าถิ่นจะขาดเพียงแค่ จักรี บูรพา คนเดียวที่ติดโทษแบน

ส่วนรายอื่นๆ ยังคงอยู่กันครบในเกมนี้ทางด้าน "โค้ชเวศน์" เทเวศร์ กุนซือใหญ่ของทีมเตรียมส่งแข้งหลักอย่าง บานี่ อาบีคู, ภาคภูมิ มานะยิ่ง, ณัฐกร บุตรหนองแสง, วีระวัฒน์  พลเชียงขวาง  และทางด้าน "เจ้าเอ" พร้อมพงษ์  กรานสำโรง ลงสนามเป็นตัวทีเด็ดในเกมนี้นัดสุดท้ายเล่นในถิ่นของตัวเองพร้อมให้ลูกทีมเปิดเกมเข้าใส่ทันทีตั้งแต่ต้นเกมต้องการเก็บชัยชนะในเกมนี้ให้ได้เพื่อเป็นแชมป์ของกลุ่ม บี
   

 "กระรอก" เต็มสูบส่งเอ็บเบลวัดคม

ส่วนทีมเยือน "กระรอกขาวจ้าวสนาม" ในเกมนี้ "โค้ชบู๋" อ.จักราช โทนหงษา จะขาดเพียงแค่ ณรงฤทธิ์ มุละสิวะ ที่ติดโทษแบน ส่วนรายอื่นๆ ยังคงอยู่กันพร้อมหน้าเตรียมส่งแข้งหลักอย่าง ธีระพงศ์ ดีหามแห, ธงไชย  รัฐไชย, ศิริศักดิ์  เย็นใจ, ณัฐวุฒิ  หายชัย

ถนอม  แสงจันดา, เดวิด  เดวิดสัน, เคนนาดี้ และทางด้าน เอ็บเบล แอสซิสซู ลงสนามเป็นตัวจบสกอร์ในเกมนี้ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีต้องการชำระแค้นให้ได้หลังจากที่ต้องพลาดท่าถูกปรับแพ้ฟาวล์ในเลกแรกในเกมนี้แม้จะไม่มีลุ้นแต่ก็ต้องการเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ดและเพื่อเรียกขวัญกำลังใจและสร้างความมั่นใจกลับคืนมา