พญาชาละวัน พิจิตร เอฟซี ต้องสะดุดขาตัวเอง หลังเปิดบ้านฟัด สิงโตแดง นครสวรรค์ เอฟซี ทำได้แค่เสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0

การแข่งขันฟุตบอล เอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา

ที่สนามกีฬาพิจิตร สเตเดี้ยม เป็นการลงดวลเกือกกันระหว่างทีม "พญาชาละวัน" พิจิตร เอฟซี สโมสรอันดับ 3 ของตารางลงเล่น 21 นัด เก็บได้ 44 แต้ม เกมล่าสุดเสมอทีมกำแพงเพชร เอฟซี 1-1 เกมนี้ต้องเฝ้าบ้านรับการมาเยือนของทีม "สิงโตแดง" นครสวรรค์ เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของตาราง สถิติที่ครองอยู่ลงเล่น 21 นัด คว้าได้ 33 แต้ม ซึ่งแมตช์ล่าสุดเจ๊ากับทีมแพร่ ยูไนเต็ด 1-1

เกมนี้ทีมพิจิตร เอฟซี เจ้าบ้านนำทีมโดย สุทน กุลมัย กัปตันทีม ตามมาด้วย สถาพร ศรีอ่อน, วิทยา ศรีแก้ว, วรรธนัย ไชยชาติ, วิสูตร บุญเป็ง, ณัฐพล เทพอุทัย และ สุรพงษ์ ทองบัว ส่วนทางฝั่งทีมเยือน นครสวรรค์ เอฟซี มี สาธิต หงส์สา เป็นนายทวาร ตามมาด้วย นภดล กิ่งแก้ว, ยุทธภูมิ แจ่มสะอาด, นัฐพันธ์ จิราพงษ์ และ พันศักดิ์ พันสิงห์ กัปตันทีม

กรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน ทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าแลกกันอย่างสนุกตั้งแต่ต้นเกม นักเตะทั้งสองทีมต่างพยายามครองเกมกันอย่างรัดกุมเพื่อสร้างเกมรุกในการทำประตู ทีมนครสวรรค์ เอฟซี มีโอกาสทักทายก่อนน.10 จากจังหวะที่ เดร์เท็ม คาราโม่ ได้จังหวะเลี้ยงบอลเข้ากรอบเขตโทษได้จังหวะยิงไปติดบล็อกกองหลังทีมพิจิตร เอฟซี บอลเลยมาเข้าเท้า ธนวัต ปานช้าง มีจังหวะยิงแต่หลุดเสาแรกไปอย่างน่าเสียดาย

แต่อีกแค่นาทีเดียว ทีมพิจิตร เอฟซีโต้กลับจาก อำนาจ รักประเสริฐ ปีกขวาของทีมเลี้ยงบอลเข้ากรอบเขตโทษได้จังหวะยิงแต่ไปติด สาธิต หงส์สา นายทวารทีมนครสวรรค์ เอฟซีรับเอาไว้ได้ ทีมนครสวรรค์ เอฟซีทำเกมรุกมาอย่างน่ากลัว เป็นทาง ทิวา โชคทวีพูลลาภ ได้บอลในเขตโทษเปิดมาให้ ธนวัต ปานช้าง ได้โหม่งระยะ 7 หลา ทางด้านซ้ายแต่โดน ทัวร์เด้ โอมาร์ โหม่งสกัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด น.23 ทีมพิจิตร เอฟซีได้ลูกฟรีคิกตรงมุมเขตโทษฝั่งขวาเป็น วรรธนัย ไชยชาติ เปิดเข้าไปและเป็น ทัวร์เด้ โอมาร์ โหม่งเข้าไปแต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเพราะเป็นลูกล้ำหน้า

น.34 ทีมพิจิตร เอฟซีได้ฟรีคิกตรงมุมเขตโทษฝั่งขวาเป็น วรรธนัย ไชยชาติ ยิงเข้าไปเต็มแรง บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวเกือบเป็นประตูขึ้นนำให้ทีมพิจิตร เอฟซี เข้าสู่ช่วงทดเวลาของการแข่งขันเป็นทีมพิจิตร เอฟซีสามารถครองเกมบุกได้มากกว่าพยายามทำเกมเร็วใส่ทางด้านทีมนครสวรรค์ เอฟซี แต่ไม่สามารถฝ่าแนวรับของทีม นครสวรรค์ เอฟซีเข้าไปยิงประตูได้ หมดเวลาในครึ่งแรก ทีมพิจิตร เอฟซี ยังเสมอกับทีมนครสวรรค์ เอฟซี 0-0

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กันทันทีและเป็นทางทีม พิจิตร เอฟซีเจ้าบ้านที่ดูดีกว่าสามารถครองเกมได้เหนือกว่าในช่วงแรกของครึ่งหลัง น.51 ทีมพิจิตร เอฟซี มีโอกาสได้ประตูจากจังหวะที่ อำนาจ รักประเสริฐ เลี้ยงบอลจากด้านขวาเปิดเร็วมาในกรอบเขตโทษถึง สุรพงษ์ ทองบัว จัดการยิงเร็วไปติด สาธิต หงส์สา นายทวารทีมนครสวรรค์ เอฟซีปัดออกมาได้แต่มาเข้าเท้าของ วิสูตร บุญเป็ง จัดการยิงอีกครั้งแต่หลุดเสาแรกอย่างน่าเสียดาย

น.56 ทีมนครสวรรค์ เอฟซีได้จังหวะโต้กลับเร็ว เป็น ธนวัต ปานช้าง เลี้ยงบอลเข้าข้างกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไหลบอลมาให้ พันธ์ศักดิ์ พันธ์สิงห์ กลางกรอบเขตโทษจัดการยิงเข้าไป แต่บอลดันไปชนเสาอย่างน่าเสียดายเกือบเป็นประตูขึ้นนำให้กับทีม

น.70 ทีมพิจิตร เอฟซี ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเมื่อ อำนาจ รักประเสริฐ ปีกขวาคนสำคัญของทีมโดนใบเหลืองทีมสองเป็นใบแดงต้องออกจากสนามไป น.82 ทีมพิจิตร เอฟซี ได้ลูกเตะมุม วิสูตร บุญเป็ง จัดการเปิดมาหน้ากรอบเขตโทษและเป็น ทัวร์เด้ โอมาร์ จัดการโหม่งตามน้ำแต่บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียว

เข้าสู่ช่วงทดเวบาดเจ็บ ทีมพิจิตร เอฟซี พยายามบุกอย่างหนักแต่ไปเจอเกมรับที่เหนียวแน่นของทีมนครสวรรค์ เอฟซี ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเจาะทำประตูได้ หมดเวลาการแข่งขันทีมพิจิตร เอฟซี 10 คนสามารถยันเสมอทีมนครสวรรค์ เอฟซี ไปได้ 0-0

วาทะโค้ช
สรศักดิ์ แรตสอน กุนซือทีมพิจิตร เอฟซี : เกมนี้ลูกทีมสามารถทำเกมรุกได้ดีมากแต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ ทำให้ไม่สามารถเก็บสามแต้มได้ แต่ก็พอใจผลงานนักเตะในเกมนี้" 

ธนานวัฒน์ มธุรส เฮดโค้ชทีมนครสวรรค์ เอฟซี : แมตช์นี้นักเตะสามารถสู้กับคู่แข่งได้ดีมากแต่มีปัญหากับการจบสกอร์ที่ไม่คมพอทำให้ไม่สามารถเก็บสามแต้มได้"

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ทัวร์เด้ โอมาร์ กองหลังทีมพิจิตร เอฟซี เป็นกำลังสำคัญขอทีมในเกมนี้สามารถเล่นดีทั้งเกมรับและเกมรุกทำให้ทีมไม่เสียประตู