ทีพีแอลถกเครียด4ประเด็นสำคัญ เตรียมหาข้อสรุป18หรือ20สโมสร ในวันที่1ก.พ.นี้ เร่งจี้9สโมสรลีกวันที่ยังไม่ส่งคลับไลเซนซิ่ง อาจถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขันขณะที่3สโมสร อย่างเพื่อนตำรวจ ,สระบุรี และ พัทยา ยูไนเต็ด ที่ยังมีปัญหา ต้องนัดเคลียร์ให้เรียบร้อย หากไม่พร้อมมีโอกาสถูกสั่งห้ามแข่ง และอาจทำให้ไทยลีกมีไม่ถึง18ทีม ขณะที่ปัญหา สุโขทัย -นครปฐม ศาลนัดตัดสิน 22ม.ค.นี้รู้ชัดแน่นอน

การประชุมบอร์ดบริหารบ.ไทยพรีเมียร์ลีก  ที่ห้องประชุม สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ  เมื่อวันที่ 18ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ บอร์ดบริหาร นำโดยบิ๊กเปี๊ยก  ดร.องอาจ  ก่อสินค้า  ปธ.ไทยพรีเมียร์ลีก เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วย"ทนายโบ้"นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ  และตัวแทนสโมสร ได้ทำการประชุมกัน ในช่วงบ่ายเป็นเวลากว่า4ชั่วโมง ซึ่งวาระใหญ่ในการประชุม มี4หัวข้อสำคัญดังนี้
 

ประเด็นแรก  เรื่องของบทสรุป18 หรือ20สโมสร ในไทยพรีเมียร์ลีก  หลังจากที่เป็นประเด็นถกเถียงกันมานานนั้น ทางด้าน ทนายโบ้"นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ  ได้กล่าวว่า  ทางฟีฟ่า ได้ส่งหนังสือ เข้ามาในเรื่องของระเบียบ การแข่งขันนั้นให้บ.ไทยพรีเมียร์ลีก เป็นผู้ดำเนินการตัดสินใจได้เลย  ทำให้บอร์ดบริหาร นั้นจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณา และเตรียมหาข้อสรุปที่ชัดเจน ในวันที่1 ก.พ.นี้ จะสามารถระบุได้ว่าจะมีกี่ทีมในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก

 
ประเด็นที่สองเรื่องคลับไลเซนซิ่ง ในระบบCLAS ซึ่งทีมในไทยลีกนั้นดำเนินการเรียบร้อย ไร้ปัญหา  แต่ยังเหลือทีมลีกวัน9สโมสรยังไม่ดำเนินการ ให้เรียบร้อยถายในวันที่15 ม.ค. ที่ป่านมา ตามที่ เอเอฟซีกำหนด ทำให้ต้องเร่งหาทางแก้ไขโดยได้แจ้งสโมสร ที่ยังไม่ดำเนินการนั้นรับรู้รับทราบ ตามกฎของเอเอฟซีหากไม่ดำเนินการอาจจจะมีมาตรการสั่งห้ามในการแข่งขันซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้งในวันที่1ก.พ. เช่นกัน
 

ประเด็นที่3 กับปัญหาของ 3สโมสร ที่ยังมีปัญหา เรื่องสถานภาพของทีม ทั้งเพื่อนตำรวจ ,สระบุรี เอฟซี และพัทยา ยูไนเต็ด  ที่เป็นปัญหาที่หนักมากและอาจทำให้ ไมยพรีเมียร์ลีกนั้นมีไม่ครบ18สโมสร ซึ่งบิ๊กเปี๊ยก  องอาจ  ก่อสินค้า เผยว่า ในเรื่องของสถานภาพการเงิน  ความพร้อม ต่างๆ นั้นมันมีอยู่ในกฎเกณฑ์คลับไลเซนซิ่ง ซึ่งอาจมีผลในการสั่งระงับในการส่งทีมเข้าแข่งขันได้ และจะมีการพิจารณากันอีกครั้งในวันที่1ก.พ. น่าจะได้ข้อสรุป
 

และข้อที่4 ประเด็นเรื่องของสุโขทัย เอฟซี กับ นครปฐม ยูไนเต็ด ที่มีการร้องต่อศาลปกครองในการคุ้มครองนั้น  ในวันที่22ม.ค.นี้ ศาลปกครองนัดฟังคำตัดสิน ว่าจะให้มีการแข่งขันอย่างไร ตามคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ อย่างไร

 
ซึ่งทางด้าน"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ  ก่อสินค้า ปธ. ไทยพรีเมียร์ลีกได้ ยืนยันว่าข้อสรุปที่จะมีการพูดคุยกันในครั้งหน้านั้นจะได้ข้อสรุปชัดเจน และทำให้การแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก และยามาฮ่าลีกวันนั้นสามารถดำเนินการได้อย่างแน่นอน

Siamsport
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]